เรียนพิเศษที่ไหนดี
โรงเรียนในระบบ ก็เหมือนโรงงาน ที่สร้างบล็อกสินค้า และใช้เทคโนโลยีในการผลิต แบบเดียวกัน เราจะได้สินค้าที่เหมือนกันทุกประการ แต่สำหรับมนุษย์ซึ่งมีความหลากหลายและความแตกต่าง การศึกษาตามหลักสูตรของกระทรวง จึงไม่สามารถตอบโจทย์ได้ตรงกับความแตกต่างของคนแต่ละคนได้ เราจึงต้องมีการเรียนพิเศษ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับผู้เรียน และการเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัว เป็นการสร้างคุณสมบัติพิเศษให้กับผู้เรียนเฉพาะบุคคลโดยตรง ซึ่งอยู่เหนือกว่าคำว่า ศักยภาพ และเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างสิ่งพิเศษให้เกิดกับผู้เรียนอย่างแท้จริง
และต่อไปนี้คือ วิธีการประเมินเพื่อเลือกที่เรียนพิเศษ รวมถึงการเลือกครูสอนพิเศษแบบตัวต่อตัว เพื่อที่เราจะได้เจอ รูปแบบของการเรียนพิเศษที่ตรงกับความต้องการอย่างแท้จริง

1.การสอบถามจากคนรอบข้าง เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดในการมองหาสถานที่เรียนพิเศษตัวต่อตัว นั่นคือการสอบถามจากผู้ที่เคยมีประสบการณ์มาก่อน คนเหล่านี้จะบอกเรื่องราวของผู้สอนได้เป็นอย่างดี และผู้สอนที่ได้รับการแนะนำ มักมีผลงานที่น่าพอใจในระดับที่ต้องบอกต่อ แต่ทั้งนี้ หลังจากได้รายการตัวเลือกที่น่าสนใจมาแล้ว เราก็ควรที่จะสอบถามรายละเอียดเพื่อประเมินในความเห็นส่วนตัวของเราเพิ่มเติมด้วย
- พบครูสอนพิเศษโดยตรง โดยเฉพาะการเรียนพิเศษตัวต่อตัว เราจำเป็นจะต้องประเมินตัวผู้สอนร่วมด้วย ครูบางคนเก่งในเรื่องทฤษฎี แต่ขาดทักษะในเรื่องการสอน และการสร้างสัมพันธ์อันดีกับผู้เรียน หรือบางคน พูดจาดี มีมนุษย์สัมพันธ์เป็นเลิศ แต่มีความรู้เกี่ยวกับทฤษฎีพอๆกับผู้เรียน สิ่งเหล่านี้ จะต้องเป็นส่วนผสมที่ลงตัว ครูสอนพิเศษที่ดี จะต้องมีความรู้ในระดับดี ถึงดีมาก และจะต้องมีทักษะในการสอนและสามารถสื่อสารกับคนรอบข้างได้อย่างดี โดยเฉพาะการสื่อสารกับตัวผู้เรียน
- ประกาศรับสมัครด้วยตัวเอง วิธีการนี้ เราจะต้องใช้วิจารณญาณส่วนตัวทั้งของผู้ปกครอง และของเด็กร่วมกันในการประเมิน ผู้สอนที่ดีจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของผู้เรียน และพร้อมที่จะผลักดันให้เกิดการเรียนรู้ สร้างความพร้อมสำหรับการเพิ่มศักยภาพ ให้ผู้เรียนสามารถสร้างทักษะการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง เพราะในอนาคต เด็กจะต้องมีสิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานสำหรับการเรียนรู้ตลอดชีวิต เราไม่ต้องการครู ที่ทำตัวเป็นไม้บรรทัด ถ้าไม่ตรงกับแนวของครู คือผิด และเราไม่ต้องการครูที่เป็นแค่เทปบันทึกภาพ ที่สอนได้อย่างเดียว แต่ไม่สามารถโต้ตอบกับเด็กได้ แต่เราต้องการครูที่มีชีวิต ความคิด และมีมาตรฐานความรู้ในระดับที่จะสามารถช่วยพัฒนาตัวผู้เรียนให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดได้

จุดมุ่งหมายหลักของการเรียนพิเศษ คือ การเพิ่มศักยภาพให้กับตัวผู้เรียน ผู้สอนที่มีความพร้อมสูงสุด จะต้องบอกเราได้ว่า อะไรคือ สิ่งที่เขาจะทำเพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพในตัวผู้เรียน เขามองเห็นอะไรในตัวผู้เรียน จุดอ่อน จุดแข็ง จุดที่ควรได้รับการพัฒนาตามลำดับก่อนหลัง แผนการสอน และรายงานความคืบหน้า จะบอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี ทั้งในส่วนของผู้สอน และผู้เรียน แต่ทั้งนี้ผู้ปกครองก็ต้องยืดหยุ่นให้กับผู้สอนด้วย เพื่อเปิดโอกาสให้มีการปรับแผนการเรียนการสอนให้ตรงกับความต้องการ และเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่ผู้สอนต้องเผชิญพร้อมกับผู้เรียน
อีกส่วนที่สำคัญ คือ ช่วงเวลาหลังการเรียน ครูสอนพิเศษควรจะต้องมีเวลาเผื่อเอาไว้สำหรับ การพูดคุยเพื่อสร้างความคุ้นเคย และผ่อนคลาย พร้อมช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ให้เกิดกับผู้เรียน อย่างน้อยที่สุด ก็จะต้องมีเวลาในการตอบข้อซักถาม อย่าลืมว่า ทุกคำถาม มีผลต่อพัฒนาการของผู้เรียน และควรได้รับความใส่ใจจากผู้สอนเสมอ ถ้าไม่มีเวลาจริงๆ ก็ควรจะต้องสร้างช่องทางการติดต่อที่สามารถเชื่อโยงกับผู้เรียนได้ถามคำถามตลอดเวลา ที่เกิดข้อสงสัย ทุกคำตอบของผู้สอนล้วนมีความสำคัญ เพราะมันหมายถึงการใส่ใจ และการดูแลให้ความช่วยเหลือตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้จะสะท้อนถึงความจริงใจ และความปรารถนาดีในตัวผู้เรียนอย่างจริงจัง และเด็กจะซึมซับความรู้สึกเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี เขาจะยินยอมและให้ความร่วมมือในทุกๆการเรียนการสอน ซึ่งท้ายที่สุดประโยชน์ทั้งหมดจะตกอยู่ที่ตัวผู้เรียนเองทั้งสิ้น
ผู้ปกครองหรือน้องๆท่านใดสนใจเรียนพิเศษกับ Upupgradetutor
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : พี่จึ๊ง 080-235-9724
Line : natpisa.ki
Instragram : upupgradetutors
Website : www.upupgradetutor.com
Facebook: www.facebook.com/upupgradetutors